ประเภณีแห่ปราสาทผึ้ง จังหวัดสกลนคร
ชาวสกลนครมีการฉลองเทศกาลออกพรรษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ซึ่งแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆด้วยการสร้าง
"ปราสาทผึ้ง"ถวายเป็นพุทธ
บูชา
โดยชาวสกลนครเอารวงผึ้งที่คั้นน้ำออกแล้วต้มให้เปื่อย
ทำเป็นดอกไม้ต่างๆ
มาสร้างเป็นปราสาท
ซึ่งก่อนนั้นทำกันอย่างง่ายๆคือเอากาบกล้วยมาทำเป็นโครงปราสาทร้อยให้ติดต่อ
กันด้วยตอกไม้ไผ่
เรียกว่า
"แทงหยวก" จากนั้นประดับด้วยดอกผึ้งเป็นลวดลายต่างๆรวมทั้งเครื่องประดับอัน
ได้แก่
ไม้ขีด
กระดาษ
ดินสอ
ผ้าฝ้ายและผ้าแพร
ฯลฯ
ในวันขึ้น 15 ค่ำ
เดือน
11 เป็นวันโฮม หรือวันรวมปราสาทผึ้งจากคุ้มต่างๆที่บริเวณวัด
แต่ละคุ้มจะอยู่ซุ้มใครซุ้มมันรอบกำแพงวัด
พอค่ำลงมีบรรดาหนุ่มๆจะมาเป่าแคน
ดีดพิณและสีซอเดินเป็นกลุ่มๆไปรอบคุ้ม
หนุ่มที่หมายตาสาวใดไว้ก็จะเข้าไป
"แอ่ว" หรือจีบได้
โดยพ่อแม่ของสาวจะ
ไม่ขัดขวางเหมือนวันปกติ
รุ่งขึ้นจะมีการทำบุญตักบาตร
เสร็จแล้วจัดขบวนแห่ปราสาทผึ้งแค่ละขบวนจะแห่ด้วยเกวียน
ใช้คนเทียมแทนวัวควาย
นางฟ้าปราสาทผึ้ง
(ปัจจุบันเรียกเทพี)จะนั่งอยู่ตอนหน้าของเกวียน
ตรงกลางเป็นปราสาทผึ้ง
ขบวนแห่มีพิณ
ฆ้อง
กลองตามด้วยคนหนุ่มคนสาวและเฒ่าแก่
ประนมมือถือธูปเทียนแห่รวบพระธาตุเชิงชุมจนครบ
๓รอบเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ในปัจจุบันการทำปราสาทผึ้งและขบวนแห่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากรูปทรงของตัวปราสาท
ผึ้ง
และการประดับประดาได้วิจิตรพิสดารมากมีการออกแบบลวดลายต่างๆไม่เหมือนในอดีต
ขบวนแห่ที่เคยใช้เกวียนก็เปลี่ยนเป็นรถยนต์และเปลี่ยนสถานที่รวมขบวนจากบริเวณวัดมาอยู่ที่สนามมิ่งเมือง
แต่ละปีจะมีขบวนแห่ยาวเป็นสิบกิโลเมตร
มีสิ่งแปลกๆใหม่ๆเพิ่มขึ้นในขบวนแห่ปราสาทผึ้งคือ
การแสดงเกี่ยวกับประเพณีโบราณของอีสาน
เช่น
การบุญข้าวสาก
การตำข้าว
การปรุงยาสมัยโบราณ
รำมวยโบราณ
การทำบุญข้าวประดับดิน
และการปลุกพระ
ตลอดจนถึงการแสดง
นรก-สวรรค์
ว่าคนที่ตกนรกทุกข์ทรมานอย่างไร
และคนที่ขึ้นสวรรค์จะได้รับความสุขแค่ไหน
หลังจากที่มีการทอดถวายปราสาทผึ้งแล้ว
วันรุ่งขึ้นจะมีการแข่งเรือกันที่หนองหาน
สำหรับการแข่งเรือนั้นเดิมเป็นการแข่งเอาความสนุกสนานและสืบทอดประเพณี
ปัจจุบันเป็นการแข่งขัน
เพื่อช่วงชิงรางวัลกันมากกว่า
การแห่ปราสาทผึ้งของชาวสกลนครเป็นประเพณีเก่าแก่
โดยมีหลักฐานปรากฏอยู่ในตำนานเมืองหนองหาน(คือสกลนครในปัจจุบัน)กล่าวไว้ว่าในสมัยขอมเรืองอำนาจและปกครองเมืองหนองหาน
ในแผ่นดินพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ
ได้โปรดฯให้ข้าราชบริพารจัดทำต้นเผิ่ง(ต้นผึ้ง)ขึ้นใน
วันออกพรรษา
เพื่อแห่แหนคบงันที่วัดเชิงชุม(ปัจจุบันเรียกกันว่าวัดพระธาตุเชิงชุม
วรมหาวิหาร)
จากนั้นเมืองหนองหานได้จัดทำปราสาทผึ้งติดต่อกันมาทุกปี