ผญา

ผญา คือ อะไร


ผญา หมาย ถึง ปัญญา ปรัชญา ความฉลาด ปัญญา ปรัชญา หรือผญา เป็นกลุ่มภาษาเดียวกัน มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้ เคียงกันหรือบางครั้งใช้แทนกันได้ ซึ่งหมายถึง ปัญญา ความรู้ ไหวพริบ สติปัญญา ความเฉลียว ฉลาดปราชญ์เปรื่อง หรือบางท่านบอกว่า ผญา มาจากปัญญา โดยเอา ป เป็น ผ เหมือนกับ เปรต เป็น เผด โปรด เป็น โผด เป็นต้น
            ผญา เป็นลักษณะแห่งความคิดที่แสดงออกมาทางคำพูด ซึ่งอาจ จะมีสัมผัสหรือไม่ก็ได้ผญา คือ คำคม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่าหมายถึงอะไรผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะ ไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย

ผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กินใจความมากการพูดผญาเป็นการพูดที่กินใจ การพูดคุยด้วยคารมคมคาย ซึ่งเรียกว่า ผญา นั้น ทำให้ผู้ฟังได้ทั้งความรู้และความคิดสติปัญญา ความสนุกเพลิดเพลิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เกิด ความรักด้วย จึงทำให้หนุ่มสาวสมัยก่อน นิยมพูดผญากันมาก และการโต้ตอบเชิงปัญญาที่ทำ ให้แต่ละฝ่ายเฟ้นหาคำตอบ เพื่อเอาชนะกันนั้นจึงก่อให้เกิดความซาบซึ้ง ล้ำลึกสามารถผูกมัด จิตใจของหนุ่มสาวไม่น้อย ดังนั้น ผญา จึงเป็นเมืองมนต์ขลังที่ตรึงจิตใจหนุ่มสาวให้แนบแน่นลึกซึ้งลงไป
            ภาษิต โบราณอีสานแต่ละภาษิตมีความหมายลึกบ้าง ตื้นบ้าง หยาบก็มี ละเอียด ก็มี ถ้าท่านได้พบภาษิตที่หยาบ ๆ โปรดได้เข้าใจว่า คนโบราณชอบสอนแบบตาเห็น ภาษิตประจำ ชาติใด ก็เป็นคำไพเราะเหมาะสมแก่คนชาตินั้น คนในชาตินั้นนิยมชมชอบว่าเป็นของดี ส่วนคน ในชาติอื่น อาจเห็นว่าเป็นคำไม่ไพเราะเหมาะสมก็ได้ ความจริง "ภาษิต"คือรูปภาพของวัฒนธรรมแห่งชาตินั่นเองการจ่ายผญาหรือการแก้ผญา
            การ จ่ายผญา แก้ผญา เว้าผญา หรือพูดผญา คือการตอบคำถาม ซึ่งมีผู้ถามมาแล้ว ก็ตอบไป เป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียง ไม่มีทำนอง แต่เป็นจังหวะ มีวรรคตอนเท่านั้น ผู้ถามส่วนใหญ่จะเป็นหมอลำฝ่ายชาย คือลำเป็นคำถาม ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายตอบ หรือจ่ายผญา ด้วยเหตุนี้จึงมักจะเรียกว่า ลำผญา หรือลำผญาญ่อย เช่น
(ชาย) ..... อ้ายนี้อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวถึงปลา อยากถามข่าวนา ถามข่าวถึงเข้า (ข้าว) อ้ายอยากถามข่าวน้อง ว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ชู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
(หญิง) ..... น้อง นี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดังตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีชายสิมาเกี้ยว พัดแต่สอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม พัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี

นี้ คือตัวอย่างผญา เพื่อท่านที่ยังไม่รู้ว่าผญาคืออะไรและไม่รู้จะพูดยังไงผมก็มีผญามาฝากด้วย นะครับมีทั้ง  ผญาคำสอน ผญาเกี้ยวพาราสี   ผญาปัญหาษิต   ผญาเปรียบเปรย    ไปดูกันเลยครับ

ผญาคำสอน

    คันได้กินลาบซิ้นอย่าลืมแจ่วแพวผัก           ได้กินพาเงินพาคำอย่าลืมกระเบียนฮ้าง
    คันเจ้าได้อยู่ยอดฟ้าผาสาทประดับมุข           อย่าได้ลืมเฮียมทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
    คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา                          อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
    คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มสัปทน                               อย่าได้ลืมคนจนผู้แห่นำตีนซ้าง
    ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้วก็                      อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง

 
    เกลี้ยงแต่นอกทางในเป็นหมากเดื่อ           หวานนอกเนื้อในส้มดั่งหมากนาว
    เกลี้ยงปากทางไหทางในเป็นปลาแดก            เกลี้ยงปากบั้งขังข้อปากกะทอ
    เกลี้ยงฮอดใบ ใสฮอดลูก                    เกลี้ยงฮอดเข้าปลูก เกลี้ยงฮอดเข้าปัดลาน
    
    กาบ่มักท่าน้ำสมุทรหลวงกะบ่ว่า             กาบ่มักท่าน้ำกะตามถ้อนช่างกา
    กินแกงแข้คางกะแจปากบ่ลั่น                      กินกะท้างคางกระด้างปากบ่เป็นชั้นบ้อ
    
    เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี                    อย่าได้เอาบาลีต่อยตีตางฆ้อน
    จะฆ่าให้ตายก็ฟาดด้วยไม้เนื้อแข็ง                         อย่าตีด้วยความรู้เลย
    
    เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี               มาซ่างเอาหัวใจตีเน่านูมในเนื้อ
    ตายกะบ่ตายแท้พอทรงวิบาก                     อยากกะกินบ่ได้คาแค้นคั่งทวง


 ผญาเกี้ยวพาราสา


    ฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง                ฝันว่าเสาเฮือนเนิ้งไปทางตะวันออก
    ฝันว่าปอกมีดโต้ตกน้ำล่องหนี                  ฝันว่าธำมะรงเหลื้อมในมือกระเด็นแตก
    เกรงว่านาถเจ้าใจเลี้ยวจากเฮียม
    ฝันคืนนี้เป็นฝันประหลาด                                  ฝันว่าเสาเรือนเอียงไปทางทิศตะวันออก ฝันว่าปลอกมีดตก
    น้ำไหล ฝันว่าแหวนเพชรในมือหล่นแตก            เกรงว่าจะเป็นลางร้ายหรือน้องจะจากไป
    ฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง                         ฝันว่าช้างเผือกผู้พระอวนเจ้าขึ้นขี่คอ
    เฮียมก็ผันผยองขึ้นเทิงหัวช้างใหญ่                    เฮียมกะหนีบ่ได้ ไกลเจ้าคืบวา
    ฝันคืนนี้ช่างประหลาด                                    ฝันว่ามีช้างเผือกของหนุ่มบ้านอื่นมารับเอาน้องหนีไปไกลลับตา
    เว้าชู้ต่างบ้านปานฝากไข่ไว้นำกา                                 ฝากปลาไว้นำแมว
    ฝากแหลวไว้นำไก่น้อย                                         ฝากก้อยไว้นำหมาขี้เฮื้อน มันสิม้ามเมื่อใด
    มีคนรักต่างบ้านก็เหมือนฝากไข่ไว้กับกา                          ฝากปลาไว้กับแมว ฝากเหยี่ยวไว้กับไก่
    ฝากลาบก้อยไว้กับหมา                                            ไม่รู้มันจะงาบเมื่อไร?

    ว่าแม่นเสือกินรื้อสังบ่เห็นฮอยลาก                          ว่าแม่นนาคกินรื้อสังบ่เห็นฮอยแก่
    หรือแม่นเงือกปากแหล้                              หรือแม่นแข้ปากกว้างเอาเจ้าเข้าเวิ่นวัง
    ถ้าว่าเสือกินทำไมไม่เห็นรอยลาก ถ้าว่านาคกินทำไมไม่เห็นรอยลาก            หรืออาจเป็นเงือกหรือจรเข้เอาน้องไปซ่อนไว้หนใดหนอ
    สิบปีกะสิถ้าซาวพรรษากะสิอยู่           คันบ่ได้เป็นคู่เห็นแต่อุแอ่งน้ำกะปานได้นั่งเทียม
    สิบปี ยี่สิบปีก็จะรอน้องอยู่ ถึงไม่ได้เคียงคู่                น้องมองเห็นแค่ตุ่มใส่น้ำก็เหมือนได้นั่งเคียง
    อย่าให้เสียแฮงอ้ายเดินทางหิวหอด                   คือดั่งม้าอยากน้ำเดือนห้าหอดหิว
    คันบ่กูร์ณาอ้าย เห็นสิตายม้อยระแหม่ง                           เห็นสิตายหอดแห้งหิวน้ำหอดแฮง
    อย่าให้เสียแรงที่พี่ต้องดั้นด้นมาหา                      ได้โปรดกรุณารับไมตรีพี่ไว้อย่าแล้งน้ำใจนักเลย
    พี่สิลาจากน้องกลับต่าวเคหัง                ปาสิลาวังเวินเสิ่นไปคือฮุ้ง ทุงสิไลลาผ้า
    สาหนองสิลาบวก ฮวกสิลาแม่น้ำ                    นางน้องค่อยอยู่ดี แด่เนอ
    พี่ต้องลาจากน้องไปแล้ว เหมือนปลาที่ลาจากน้ำ                                 นกลาจากหนอง ขอให้น้องอยู่สุขสบายดีนะ
    พี่นี้บ่มีต้นกล้วยจึงได้เหนี่ยวหาตอง                   บ่มีสองจิ่งได้มาหาน้อง
    พี่นี้ปลอดอ้อยซ้อย เสมออ้อยกลางกอ                    กาบกะบ่ห่อ หน่อน้อยกะบ่อซอน ชู้บ่ช้อนเมียอ้ายบ่มี
    พี่นี้ยังเป็นโสด ไร้คู่ใจเหมือนต้นอ้อยกลางกอ               จึงได้มุ่งหมายมารักน้อง
    พี่หากใจประสงค์ปล้ำยูงยางไม้ใหญ่                         คันแม่นพร้าบ่บ่าน ขวานบ่เป้


ผญาปัญหาษิต

        กากินปลิงไปคาคอแฮ้ง        เฮือคาแก้งไปล่มเคิ่งวัง
        กกบ่เตื้องติงตายตั้งแต่หง่า             หง่าบ่เหลื่องไปเตื้องแต่ใบ
        กรรมสังโอ้ โอทองสังมาแตก             บาดกะโป๋หมากพร้าวสังมาหมั้นกว่าโอ
        เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี          อย่าได้เอาบาลีต่อยตีตางค้อน
        เก็บเห็ดให้เจ้าแงงลงห้วย            อยากได้ผักผีพวยให้เจ้าแงงลงบุ่ง
        อยากได้กุ้งพายข้องขึ้นหง่ายาง              อยากเป็นขุนนางเกือกขี้หมิ่นหม้อ
      
        คึดเลิ้กๆ คือปลาซิวลอย               คึดตื้นๆ คือบัวยื้อหยั่ง
        คึดให้มันถ่องถองบาลีให้มันแตก              เคี้ยวแหลกๆ เสียแล้วจั่งค่อยกลืน
        ไซหลังหล่าบ่หมานปลาถืกแต่เต่า               ไปยามแต่เช้าคลำพ้อว่าแม่นโพน
        ใดๆ มีแต่หญ้าทางหน้าไซมีแต่ยุ้งฮากไผ่                      ทางในมีแต่ยุ่งคือกุ้งสิแก่นดี
        ตาดีไปคล้องซ้างสามคืนมาเปล่า                       ตาบอดไปคล้องคราวมื้อขี่มา
        บ้านเมืองข่อนขุนกวานยาดไพร่                          เมืองขวาได้ไก่โจ้นเมืองซ้ายได้ไก่ยอง
        เมืองซองได้ไก่แจ้                                   คราวนี้แพ้ไพร่เมือง
        เป็นสังพากันโตนลงน้ำหากินตั้งแต่เต่า              สังบ่ขึ้นโคกกว้างหาช้างค่าแพง
        ไปบ่กลับ หลับบ่ตื่น                             ฟื้นบ่มี หนีบ่ม้ม ก้มบ่หวิด
        ผัดแต่เป็นมันอีอ้อนไผกะซอนเสียมใส่                          ผัดแต่เป็นมันอีมู้ไผกะหิ้วกะต่ากาย
        ผักหมเหี้ยนกลางทางเจ้าอย่าฟ้าวเหยียบย่ำ                   บาดห่าถอดยอดขึ้นยังสิได้ก่ายเกิน

ผญาเปรียบเปรย
         
         มีเป็นคน จนเป็นหมา
        ว่าโตกะคัก เพิ่นแห่งกะด้อ ว่าโตนั่งจ้อก้อ เขานั่นแห่งนั่งตอ
        เฒ่าเสียดาย ตายเสียชื่อ
        นาสองเหมือง เมืองสองเจ้า เย้าสองเขยคะลำ
        เสือตายเพราะหนัง ช้างตายเพราะงา พระยาตายเพราะสมบัติ
        เสือกะว่าเสือดี หมีกะว่าหมีหาญ ฟานกะว่าฟานกล้า ม้ากะว่าม้าแล่นหัน
        เห็นดงเป็นบ้าน เห็นเมืองเป็นป่า เห็นท่าน้ำเป็นด้าวด่านเสือ
        นกอีเอี้ยงกินหมากโพธิ์ไทร แซวแซวเสียงบ่มีโตฮ้อง แซวแซวฮ้องโตเดียวเหมิดหมู่
        สิบตำลึงอยู่ฟากน้ำ อย่าฟ้าวอ่าวคนิงหา สองสลึงมามือ ให้ฮีบกำมาเมี้ยน (อย่าหวังในสิ่งที่ไกลตัว)
        แนวบักต้อง บ่ห่อนหล่นไกลกก แนวผมดกบ่ห่อนมีหัวล้าน (ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น)
        เลือกผักถืกบ้ง เลือกขาจ้งถืกขามะเฮ็ง (เลือกนักมักได้แร่)
        อย่าได้เก็บดอกหว่านบ้านเพิ่นมาชม ให้เจ้าอดสาดมดอกกระเจียวแคมฮั้ว (ให้รักสาวบ้านใกล้)
        บ้านใกล้ป่าได้อยู่เฮือนเพ บ้านใกล้เซบ่ได้กินปลาแดก (ใกล้เกลือกินด่าง)
        เดือนหกให้หว่านกล้า เดือนห้าให้แต่งไถ (ทำให้ถูกกาละเทศะ)
        ยืนให้เหลียวเบิ่งป่อง นั่งย่องย่อให้เหลียวเบิ่งหว่างขา (ทำอะไรให้ระมัดระวัง)
        ผักอีตู่เตี้ยต้นต่ำใบดก กกบ่ทันฝังแน่นสังมาจีจูมดอก ฮากบ่ทันหยั่งพื้น สั่งมาปิ้นป่งใบ
        แนวนามเชื้อเสือจำศีลอย่าฟ้าวเชื่อ บาดห่าเห็นต่อนเนื้อศีลสิม้างแตกกระเด็น
        คิดต่อนาไฮ่หล่ง ฝนตกลงน้ำบ่อยู่คึดต่อเจ้าผู้ฮู้ คึดต่อชู้ผู้นี่ย่านมีชู้หมื่นคน
        ใจประสงค์ตั้งหวังชมแก้มอ่อนๆ ไผสิชมก่อนอ้ายคองถ้าเบิ่งมือ พี่สิเพพังบ้างฝาแดนกลางให้ขาดถ่อง พังทั้งอู๋แอ่งน้ำให้เป็นเฟื่องทั่วเฮือน
        เจ้าผู้ซุปผักติ้วเพพังย่อนปลาแดก ครั้นเอาผัวแต่น้อยพาเจ้าให้หน้าดำ
        เจ้าผู้เครือผักส้ม บ่สมเครือผักไส่ ข้อยผู้ฮ้ายบ่สมเจ้าผู้ดี
        เจ้าอย่าป๋าข่อยไว้กลางไฮ่เป็นหมู่กา เจ้าอย่าป๋าข่อยไว้กลางนาเป็นหมู่ไก่ เจ้าอย่าป๋าข่อยไว้ไลถิ่มให้เปลี่ยวพลอย
        ชาติสิเป็นหงส์แล้วบ่ลดต่ำลงเป็นกา คำพาทีไขบ่หลอกลวงตั๋วเจ้า คำว่าเอาเอานั่นพระยาหงส์ผู้สูงสง่า บ่ลดความได้เว้าให้เขาเอิ้นว่ากา
        ตกกะเทินว่าได้กำคอแข้บ่มีวางให้หางฟาด มีตั้งแต่สิเน้นคอแข้ใส่ตม
        ตกกะเทินได้จ้ำสิเป็นแกงหรือป่นกะตามถ่อน มีตั้งแต่สิคุ้ยเหมิดถ้วยจั่งสิเซา
        ตกลงว่าได้สู้บ่มีถอยให้เขาด่า นับแต่สิเดินหน้า ถอยก้นแหม่นบ่มี
        ครั้นได้ลงเฮือแล้วสิพายไปให้เถิงฝั่ง ครั้นแหม่นฝั่งบ่กว้างตัวเจ้าให้ส่อยพาย
        ครั้นว่าฮอดแล้วสิหมายฝากพระไมมิตร พันธะนังติดหมื่นปีบ่ไลเจ้า ว่าสิเอาใจข้อยความตายเกิดห่วม บ่ให้คลาดแล้วสิหมายมั่นใส่หมอน
        ความใจถ้วยให้ตักแกงลงใส่ ครั้นแหม่นบ่วงบ่ซ้อนสิลงท้องได้จั่งได๋
        ความใจอ้ายสิเป็นตายกะบ่ว่า ว่าแต่ทางอ้ายเลี้ยงตัวข้อยสิค่อยตาม
        อย่ามาตี๋แถลงเล่นเห็นข้อยเป็นคนโง่ อย่ามาเฮ็ดอวดโอ้ โตนั้นเก่งหลาย
        ทุกข์ง่อมหงอทุกข์ง่อมหง่อ ขอทานกินก้มซ่อมส่อ ใจดีเผิ่นกะให้ ใจฮ้างว่าบ่มี
        ทุกข์ยากฮ้ายกายก่ำผอมโซ ยากนำโตบ่มีเงิน เผิ่นบ่ถามเถิงจ้อย
        เห็นว่าดำขี่หลี่อย่าฟ้าวขี่เฮือกาย เห็นว่าดำคอยลอยอย่าฟ้าวพายเฮือเว้น บาดว่าเฮือแตกลำค่อยล่อยยังสิได้ยู้ส่อย ครั้นบ่เอิ้นใส่ข่อยสิไปเอิ้นใส่ไผ
        ตกกะเทินได้เหล้น เหล้นสาให้มันม่วน ตกกะเทินได้กวน กวนสาให้มันขุ่น กวนขุ่นแล้วซิวกุ้งกะสิงอม
        เป็นสาวจ้อยจ้อยควายตมบ่อยากขี่ บาดห่าได้ลูกน้อยบายขี่ก่อนงาย

หมวดทุกข์สุข

        ทุกข์เพิ่นบ่ว่าดี มีจั่งว่าพี่น้อง ลุงป้าเอิ้นว่าหลาน
        ทุกข์คอบปาก ยากคอบท้อง เคยแล้วอยู่บ่เป็น
        ทุกข์บ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนเพกะพออยู่ ทุกข์บ่มีข้าวอยู่ท้อง นอนลี้อยู่บ่เป็น
        ทุกข์กายอยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยาก
        ทุกข์ให้เลี้ยงม้า กำพร้าให้เลี้ยงหมู
        บ่ทุกข์บ่ยาก บ่อึดบ่อยาก
        มีเงินเว้าได้ มีไม้เฮ็ดเฮือนงาม
        มีเงินให้เพิ่นกู้ มีซู้ให้เพิ่นเล่น (นี่กะทุกข์)
        สุขเพราะมีข้าวกิน สุขเพราะมีดินอยู่
        สุขเพราะมีคู่นอนนำ สุขเพราะมีคำเต็มไถ่
        สุขเพราะมีเฮือนใหญ่มุงแป้นกระดาน สุขเพราะหลานหลายนั่งเฝ้า
        อยากทุกข์ให้เป็นนายคน อยากสาละวนให้เอาเมียน้อย
        อยากจนให้ขี้ถี่ อยากมีให้ทาน
        อยากทุกข์ให้เป็นนาย อยากซำบายให้เป็นแหล่ง
        อยากทุกข์ให้ค้าควย (ควาย) อยากรวยให้ค้าโบกค้าเบี้ย
        อยากมีหลายมันไฮ้ อยากได้หลายมันตาย
        อยากมีให้ยืมเงินเพิ่นไปค้า อยากขึ้นฟ้าให้ฆ่าเจ้าเอาของ
        ทุกข์ยากฮ้าย ขอขอดแลงงายก็ดี อย่าได้ลืมคำสัตย์ เที่ยงจริงคำมั่น





Recent Posts

free counters

ผู้เข้าชมเว็บ